​กรมพัฒน์ฯ จับมือปั๊มน้ำมัน เปิดพื้นที่ว่างให้ SMEs แฟรนไชส์ ฟู้ดทรัคส์ นำสินค้าไปขาย

img

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจับมือสถานีบริการน้ำมัน ปตท. บางจาก พีที จัดหาพื้นที่ว่างให้กับผู้ประกอบการ SMEs ธุรกิจชุมชน แฟรนไชส์ และฟู้ดทรัคส์ นำสินค้าไปวางขาย เพื่อช่วยสร้างโอกาส และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ และเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าให้กับผู้บริโภค  
         
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้เดินหน้าเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายให้ผู้ประกอบธุรกิจ ตามนโยบายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยได้เชิญผู้ประกอบการสถานีบริการปั๊มน้ำมันรายใหญ่ เช่น ปตท. บางจาก และพีที เข้าร่วมหารือเรื่องหาพื้นที่ว่างราคาพิเศษให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ธุรกิจชุมชน แฟรนไชส์ และฟู้ดทรัคส์ สำหรับนำสินค้าไปวางจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมัน เพื่อสร้างโอกาส เพิ่มรายได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง
         
โดยผลการหารือ ได้ข้อสรุป ดังนี้ 1.เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชนในร้านค้าในเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน 2.สนับสนุนจัดหาพื้นที่เช่า ห้องว่าง หรือคีออส ในสถานีบริการน้ำมันที่เหมาะสม ราคาจูงใจให้กับผู้ประกอบการ SMEs ธรกิจชุมชน แฟรนไชส์ และฟู้ดทรัคส์ ที่อยู่ในการส่งเสริมของกรม ซึ่งสถานีบริการน้ำมันพร้อมให้ความร่วมมือและเตรียมจัดกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือ SMEs และผลิตภัณฑ์ชุมชน 3.ร่วมจัดแคมเปญพิเศษนำแต้มแลกส่วนลดร้านอาหาร Thai SELECT หรือผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นต้น



ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs ที่เคยผ่านการอบรมและเข้าร่วมกิจกรรมของกรมกว่า 100,000 รายแล้ว มีธุรกิจแฟรนไชส์กว่า 530 ราย ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ ทั้งประเภทอาหาร เครื่องดื่ม ความงาม สุขภาพ และการศึกษา เป็นต้น ที่อาจมีความสนใจใช้พื้นที่ในสถานีบริการน้ำมันเพื่อขยายธุรกิจ ขณะเดียวกันสถานีบริการน้ำมันก็สนใจที่จะเปิดให้ผู้ประกอบการแฟรนไชส์มาทำธุรกิจร่วมกัน

"ความร่วมมือนี้ ถือเป็นการทำงานที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของกันและกัน โดยกรมอยู่ระหว่างหารือถึงรายละเอียดกิจกรรมความร่วมมือที่จะจัดขึ้นในอนาคตต่อไป อันจะช่วยขับเคลื่อนนโยบายเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายให้ผู้ประกอบการไทย ให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่ผู้ประกอบการและชุมชน รวมทั้งจะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ที่จะซื้อสินค้าที่เป็นของเด่นพื้นที่ ของดีพื้นถิ่นได้ง่ายขึ้น”นางอรมนกล่าว

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง